วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ค่าปรับในบริการยืม-คืน

             ค่าปรับ  เป็นนโยบายส่วนหนึ่งของห้องสมุดที่มีการกำหนดจำนวนเงินที่ต้องจ่ายให้แก่ห้องสมุดที่ฝ่ายบริการยืม-คืน  เนื่องจาก มีการส่งคืนทรัพยาการสารสนเทศหลังกำหนด  เพื่อช่วยให้ทรัพยากรสารสนเทศภายในห้องสมุดเกิดการกระจายอย่างทั่วถึงแก่ผู้ที่มาใช้บริการ  ไม่ทำให้เกิดการครอบครองทรัพยากรสารสนเทศที่คนใดคนหนึ่งเป็นระยะเวลานานจนเกินไป  รวมทั้งยังเป็นการเสริมสร้างความรับผิดชอบให้แก่ผู้ที่มาใช้บริการที่ฝ่ายยืม-คืน  นอกจากนี้  ยังเป็นการกระตุ้นให้ผู้ที่มาใช้บริการยืม-คืนมีการส่งคืนทรัพยากรสารสนเทศที่ตนเองยืมตามวันและเวลาที่ทางห้องสมุดได้กำหนดไว้  ค่าปรับจึงเปรียบเสมือนตัวกระตุ้นให้ผู้ยืมมีการตรวจสอบและนำทรัพยากรสารสนเทศมาคืนตามที่ห้องสมุดได้กำหนดไว้นั่นเอง


การกำหนดค่าปรับ
             จะมีการกำหนดค่าปรับในลักษณะที่แตกต่างกันตามแต่ละข้อตกลงหรือนโยบายของแต่ละสถาบัน

1. การยืมทรัพยากรสารสนเทศที่สามารถยืมได้ในระยะสั้นๆมักจะมีค่าปรับที่ค่อนข้างจะสูงกว่าการยืมทรัพยากรสารสนเทศที่สามารถยืมได้ในระยะยาว เช่น หนังสือสำรอง สามารถยืมได้เพียงวันเดียวเท่านั้น หากมีการคืนที่เกินกำหนด ผู้ใช้จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนเงิน 50 บาท ในขณะที่การยืมหนังสือทั่วไปอาจเสียค่าปรับเพียงแค่ 5-10 บาท เป็นต้น
2. อัตราค่าปรับมักจะแตกต่างกันตามลักษณะและรูปแบบของทรัพยากรสารสนเทศที่แตกต่างด้วยเช่นกัน
3. ก่อนจะทำการปรับ ทางห้องสมุดจะต้องดำเนินการแจ้งเตือนวันส่งคืนทรัพยากรสารสนเทศให้แก่ผู้ใช้และสมาชิกก่อนล่วงหน้าเสมอ เพื่อป้องกันความผิดพลาดและช่วยเตือนความทรงจำให้แก่ผู้ใช้


การจัดการกับปัญหาในการปรับผู้ใช้

      เป็นการแก้ไข ปรับเปลี่ยน ปรับปรุง และพัฒนาสิ่งต่างๆ รวมถึงระบบ หรือการทำงาน การให้บริการของห้องสมุดที่ผู้ใช้ไม่พึงพอใจให้มีแนวโน้มที่ดีขึ้น
1. มีการยกเว้นค่าปรับ หรือการลดราคาของค่าปรับให้น้อยลง (ขึ้นอยู่กับการเจรจาและการต่อรองกันของบรรณารักษ์และตัวผู้ใช้ในกรณีที่มีเหตุผิดพลาดบางประการ)
2. มีการผ่อนผัน (Grace period) หรือทำการปรับและกำหนดการผ่อนผันให้มีความสอดคล้องกับระยะเวลาในการยืมของผู้ใช้ แล้วก็จะต้องงำการปรับตามค่าปรับจริง
3. หากผู้ใช้ไม่ทำการคืนทรัพยาการสารสนเทศตามกำหนด แล้วยังไม่ยอมทำการเสียค่าปรับ ทางห้องสมุดจะทำการยกเลิกการเป็นสมาชิกของผู้ใช้ พร้อมกับจะทำการสั่งงดไม่ให้ผู้ใช้สามารถยืมทรัพยากรสารสนเทศทุกประเภทในห้องสมุดนั้นๆด้วย
4. บางห้องสมุดหรือบางสถาบันอาจจะใช้วิธีบริการจากการจ้างบริษัทที่มีการติดตาม (ซึ่งอาจจะมีการคิดและเพิ่มดอกเบี้ยได้ตามความเหมาะสม)
5. ห้องสมุดของทุกมหาวิทยาลัยทั่วโลกจะมีการทำเรื่องระงับการออก Transcripts (ระงับการอนุมัติการสำเร็จการศึกษา)
6. ถ้าหากทีการติดค่าปรับเป็นจำนวนเงิน 300 บาท ทางห้องสมุดก็จะทำการระงับการยืมทรัพยากรสารสนเทศอื่นๆในห้องสมุดโดยทันที
7. ห้องสมุดจะต้องมีการติดป้ายประกาศแจ้งขอความร่วมมือจากผู้ใช้บริการ โดยทำการแจ้งเป็นระยะๆ


วิธีการจ่ายค่าปรับ
1. จ่ายได้ที่โต๊ะหรือแผนกที่ให้บริการยืม-คืนได้โดยตรง
2. ชำระค่าปรับผ่านระบบอัตโนมัติ (Automated Systems, Automatically Calculate Fines)
3. มีการเปิดให้ผ่อนผันหรือต่อรองขอลดราคาค่าปรับได้ระหว่างตัวผู้ใช้เองกับเจ้าหน้าที่ของห้องสมุด
4. สำหรับห้องสมุดของทางมหาวิทยาลัย เงินค่าปรับจะต้องนำส่งให้แก่ทางมหาวิทยาลัย เนื่องจากว่าถือเป็นเงินรายได้ส่วนหนึ่งของทางมหาวิทยาลัยนั่นเอง

ค่าสมาชิก ค่าธรรมเนียม
1.ห้องสมุดมีการกำหนดค่าธรรมเนียมในกรณีที่ทรัพยากรสารสนเทศได้รับความเสียหายหรือเกิดการชำรุด
2.ห้องสมุดมีการกำหนดนโยบายซึ่่งขึ้นอยู่กับห้องสมุดว่าจะกำหนดในลักษณะใด  โดยจะต้องกำหนดค่าธรรมเนียมที่แน่นอน  ไม่เป็นไปในลักษณะที่จ่ายเกินจริง  และไปเป็นไปเพื่อการค้ากำไร
3.ห้องสมุดจะต้องมีการตรวจสอบก่อนหลังจากที่ผู้ยืมนำทรัพยากรสารสนเทศมาคืนแก่ห้องสมุด  เพื่อตรวจสภาพของทรัพยากรสารสนเทศว่าได้รับความเสียหายหรือไม่  รวมถึงในกรณีที่ผู้ใช้ทำหนังสือหาย  ทางห้องสมุดก็จะดำเนินการตกลงกับผู้ใช้ว่าผู้ใช้จะเป็นผู้ดำเนินการในการรับผิดชอบเพื่อชดใช้ค่าเสียหายด้วยตนเองรวมถึงการติดตามหาซื้อมาทดแทนในสิ่งที่ตนนั้นได้ทำหายไป  หรือจะให้ห้องสมุดเป็นผู้ดำเนินการและจัดการเองทั้งหมด  แต่ทั้งนี้ผู้ยืมจะต้องเสียค่าธรรมเนียมให้แก่ห้องสมุดด้วย  เนื่องจากห้องสมุดจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินการสั่งซื้อเพิ่มขึ้น
4.ผู้ยืมทำหนังสือหายากสูญหาย  ซึ่งหนังสือเล่มนั้นไม่มีการวางขายตามท้องตลาดแล้ว รวมถึงสำนักพิมพ์ไม่ดำเนินการจัดพิมพ์หนังสือเหล่านั้นแล้ว การที่จะหาหนังสือเล่มอื่นๆมาทดแทนหนังสือที่หายากจึงเป็นเรื่องที่เป็นปัญหาในการดำเนินการ เนื่องจาก ต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมากในการดำเนินการสั่งซื้อเพื่อทดแทนหนังสือเล่มเดิม จึงทำให้ต้องมีการเสียค่าปรับเป็นจำนวนเงินที่สูงกว่าปกติ


จริยธธรมในการให้บริการ
     บรรณารักษ์ต้องป้องกันสิทธิของผู้ใช้ โดยสอดคล้องกับหลักการหรือนโยบายของห้องสมุดที่จะต้องให้ทรัพยากรสารสนเทศเกิดการหมุนเวียนสู่ผู้ใช้ได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกันทุกคน  ป้องกันการเกิดสิทธิการครอบครองเพียงคนใดคนหนึ่งมากจนเกินไป  และบรรณารักษ์ก็ต้องสร้างความเป็นกันเองกับผู้ใช้  เพื่อให้ผู้ใช้เกิดความรู้สึกที่ดีและเลือกที่จะกลับมาใช้บริการจากห้องสมุดในภายหลัง



การจัดการชั้นให้บริการ
1. จะต้องทำการเรียงหนังสือและขึ้นหนังสือใหม่อยู่อย่างสม่ำเสมอ และยังต้องทำการตรวจสอบว่าหนังสือได้ถูกวางในที่ๆต้องตรงตามตำแหน่งที่ควรจะเป็นบนชั้นหนังสือต่างๆหรือไม่ หากมีการวางหนังสือที่ผิดก็ควรจะจัดให้ถูกต้องตามเดิม เพื่อให้ผู้ใช้สามารถค้นหาหนังสือที่ตนเองต้องการได้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว
2. จัดเรียงหนังสือตามเลขหมวดหมู่ของหนังสือ ตามประเภท หรือตามกลุ่มของหนังสือ ซึ่งขึ่นอยู่กับนโยบายและวัตถุประสงค์ในการจัดการระบบห้องสมุดของแต่ละสถาบัน
3. ในทุกๆเดือนจะมีการตรวจสอบตำแหน่งการวางหนังสือบนชั้นหนังสือ (Shelf-reading) ว่างมีหนังสือครบหรือไม่ มีหนังสือเล่มใดที่วางอยู่ผิดตำแหน่งหรือไม่ เพื่อให้มีทรัพยากรสารสนเทศที่ครบถ้วนและวางอยู่ในตำแหน่งที่ควรจะเป็น วึ่งจะเป็นการง่ายและสะดวกสำหรับผู้ใช้ในการค้นหาทรัพยากรสารสนเทศดังกล่าวนั่นเอง
4. มีการจัดชั้นสำหรับหนังสือยอดนิยมหรือหนังสือที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้จำนวนมาก โดยอาจจะตรวจสอบได้จากการสำรวจสถิติการถูกยืมของหนังสือ เพื่อเป็นการแนะนำหนังสือดังกล่าวให้ผู้ใช้คนอื่นๆได้รับทราบด้ว








การดูแลรักษา
           บรรณารักษ์ต้องมีการแนะนำวิธีการดูแลรักษาหนังสือให้แก่ผู้ใช้ เพื่อให้ผู้ใช้รักษาทะนุถนอมหนังสือ  ไม่นั่งทับหนังสือ  หรือกินขนมในระหว่างที่อ่านหนังสือ อาจทำให้หนังสือเปรอะเปรื้อนขนมได้ บรรณารักษ์จึงต้องสร้างความร่วมมือให้ผู้ใช้ดูแลรักษาหนังสือให้อยู่ในสภาพที่ดี เพื่อให้หนังสือสามารถใช้งานได้นานขึ้น ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหนังสือที่ได้รับความเสียหายหรือชำรุด  รวมทั้งหนังสือเกิดการสูญหายได้อีกด้วย  เพื่อจะได้ไม่ต้องใช้เงินงบประมาณในการดำเนินการสั่งซื้อหนังสือเข้ามายังห้องสมุดใหม่  ซึ่งจะทำให้เกิดการสูญเสียค่าใช้จ่ายและเวลาเพิ่มขึ้นในการสั่งซื้อทดแทนของเดิม  นอกจากนั้นทางห้องสมุดควรมีการจัดทำคำแนะนำวิธีการดูแลรักษาหนังสือให้อยู่ในสภาพที่ดีไว้ตามมุมอ่านหนังสือที่มีอยู่ภายในห้องสมุด  เพื่อให้ผู้ใช้นำไปปฏิบัติในการดูแลรักษาหนังสือ  เพื่อส่งเสริมให้ผู้ใช้ใช้หนังสืออย่างทะนุถนอม  ซึ่งเป็นการช่วยดูแลหนังสือให้สามารถใช้งานได้เป็นระยะเวลานานยิ่งขึ้น อย่างเช่น ในการเปิดหนังสือก็ไม่ควรจะกางหนังสือมากจนเกินไป อาจทำให้หนังสือเกิดความชำรุดได้เร็วมากขึ้นและอาจทำให้หน้าหนังสือขาดหายได้ง่าย

บัตรสมาชิกห้องสมุด
1. บัตรพลาสติก : จัดทำขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้บริการที่เป็นเด็ก
2. บัตรติดแถบแม่เหล็ก : มีทั้งแบบที่มีความเกี่ยวข้องกับการเงิน และ แบบที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการเงิน
3. บัตรติดรหัสแถบ (Barcode) : มีรหัสบาร์โค๊ตกำกับ และมีกฎระเบียนการใช้งานอยู่ที่ด้านหลังของบัตร
4. บัตรอัจฉริยะ : มีด้วยกันหลายแบบ ได้แก่ แบบสัมผัส แบบไม่สัมผัส และแบบผสม (มีทั้งระบบสัมผัสและไม่สัมผัสในแบบเดียว) เช่น บัตรนักศึกษา ซึ่งจะมีแถบสีทองขนาดเล็กติดอยู่ที่ตัวบัตร เป็นต้น




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น